วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

10 Years of Harry Potter and me..






หมายเหตุ : Blog นี้เขียนขึ้นเพื่อสนองความต้องการของตนเองล้วนๆ อยากจะเล่าถึงเรื่องราวระหว่างตัวผมเองกับ Harry Potter ตลอดระยะเวลาที่ 10 ปีที่โตมากับวรรณกรรมชุดนี้






[The Magic begin..]


...ปี 2544 (ค.ศ. 2001)....


ตอนนั้นผมอายุ 10 ขวบ กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.5 ผมเป็นคนจังหวัดนครราชสีมา(โคราช)นะครับ



ตอนนั้นผมยังจำได้ว่าโรงหนังที่ทันสมัยที่สุดของโคราชอยู่ตรงประตูชัยณรงค์ ผมจำชื่อโรงหนังไม่ได้ กับอีกที่นึงคือที่หัวรถไฟ อันนี้จำได้ว่าชื่อ ไฟว์สตาร์ มารโคว์ (ทุกวันนี้ไม่รู้ว่าปิดกิจการไปหรือยังนะครับ =='')



ในปีนั้นช่วงประมานเดือนตุลาคม มีป้ายโปรโมตภาพยนต์เรื่องหนึ่ง ผมจำได้ว่าเป็นรูปนี้





สมัยนั้นภาพที่ใช้โปรโมตหนังยังเป็นแบบป้ายที่วาดด้วยมือ (ไม่ใช่แบบที่ใช้คอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน) 



ผมเห็นแล้วในตอนแรกก็แค่มองผ่านๆ ไม่ได้คิดอะไร แต่เพื่อนผมที่นั่งอยู่ข้างๆ (ตอนนั้นผมนั่งรถรับส่งนักเรียน) บอกว่า "อยากดูเรื่องนี้ แฮร์รี่ พอตเตอร์"



...นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินชื่อของ แฮร์รี่..



ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก เพราะต้องยอมรับเลยว่าผมไม่เคยอ่านวรรณกรรมหรือหนังสือประเภทที่แบบว่ามีแต่ตัวหนังสือทั้งเล่ม


ตอนผมอยู่ชั้นประถมโดยเฉพาะช่วง ป.3-ป.5 นั้น การ์ตูนญี่ปุ่นทั้งหนังสือและแอนิเมชั่นกำลังมาแรงในกลุ่มของเด็กๆ จำได้ว่ามี ดิจิมอน 01(เรื่องนี้ฮิตสุด) , ซากุระ , โปเกมอน ฯลฯ



(แต่ส่วนตัวผมแล้วชอบโดเรมอนที่สุด 555+)



เอาง่ายๆคือผมไม่เคยสนใจวรรณกรรมหรือนิยายนั่นแหล่ะ..



ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรกับชื่อที่เพิ่งได้ยิน..


แต่พอหลังๆ ยิ่งช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายน มีคนพูดถึง แฮร์รี่ พอตเตอร์ อย่างหนาหูมากขึ้น ประกอบกับช่วงนั้นผมเองก็เริ่มๆเบื่อกับการ์ตูนญี่ปุ่นแล้ว

ผมเลยเข้าไปถามเพื่อนสนิทผมคนหนึ่ง (ปัจจุบันก็ยังสนิทกันอยู่ เป็นเพื่อนรักเลยแหล่ะครับ) ว่า



"แฮร์รี่ คือใครวะ?"



มันก็ตอบผมมาว่า


"มันเป็นเรื่องของพ่อมดเด็กคนหนึ่ง กับโรงเรียนเวทย์มนตร์ ที่ตอนนี้กำลังจะสร้างเป็นหนัง...." 



(มันพูดอะไรต่ออีกผมก็จำไม่ได้ล่ะ =__='')




เอาเป็นว่าผมเริ่มจับใจความได้คร่าวๆล่ะ ว่าแฮร์รี่เป็นพ่อมดเด็ก แล้วก็มีโรงเรียนเวทย์มนตร์อะไรประมาณเนี้ย..



จนเมื่ออาจารย์สอนภาษาไทยของผมได้พูดถึง "แฮร์รี่" ขึ้นมาในวันหนึ่งขณะที่กำลังเรียนภาษาไทยอยู่ และอาจารย์ได้เล่าเรื่องคร่าวๆของแฮร์รี่ให้พวกผมฟัง



นั่นทำให้ผมเริ่มที่จะสนใจมากขึ้นบ้างแล้วว่าวรรณกรรมชิ้นนี้ จะเป็นอย่างไร?



ในตอนแรกสุดที่ผมเริ่มเข้าไปสัมผัสเรื่องราวของแฮร์รี่นั้น ผมรับชมทางภาพยนต์ (แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ ศิลาอาถรรพ์)


 เมื่อดูแล้วขอยอมรับเลยว่าติดใจเป็นอย่างมาก


แต่อาจารย์ภาษาไทยบอกผมว่า "ที่ภาพยนต์ทำออกมาน่ะมันตัดบางส่วน บางฉากออกไปจากหนังสือ ถ้าอยากดูให้ได้อรรถรถมากกว่านี้ให้ไปหาซื้อหนังสือมาอ่านนะ"



จนกระทั่งวันหนึ่งผมได้ไปร้านหนังสือกับคุณแม่และเห็นหนังสือเล่มนี้เข้า






(ปกแบบนี้เลย นานมีบุ๊คส์บอกว่า "ฉบับแปลงร่าง" -- เล่มนี้ไม่ใชของผมเองนะครับ เอามาจากเว็บ)



ตอนนั้นมันห่อพลาสติกอยู่ มันเลยทำให้แกะอ่านไม่ได้ ผมบอกคุณแม่ว่า "อยากอ่าน ซื้อให้หน่อย.."


ตอนนั้นหน้าปกมันเขียนว่า "วรรณกรรมเยาวชนดีเด่น" คุณแม่ถามผมในทันทีว่า "อ่านได้แน่เหรอ หนังสือนี่มันไม่เหมือนการ์ตูนนะ มันไม่มีภาพ จะมีแต่ตัวหนังสืออย่างเดียว"


แต่ผมเองก็รั้นที่จะเอาให้ได้ จนสุดท้ายคุณแม่ก็ยอมซื้อให้ แต่แอบขู่ผมไว้นิดๆว่า "ถ้าซื้อไปแล้วไม่อ่านล่ะก็หน้าดู"


กลับถึงบ้าน.. ผมก็เริ่มอ่านในทันที คาดว่าแฟนพันธุ์แท้ของแฮร์รี่ คงจะคุ้นเคยกับประโยคนี้ดีนะครับ


บทที่ 1




เด็กชายผู้รอดชีวิต


"... นายและนางเดอร์สลีย์เจ้าของบ้านเลขที่สี่ ซอยพรีเว็ต ภาคภูมิใจนักที่จะบอกว่าพวกเขาเป็นคนปกติธรรมดาที่สุด เชื่อเขาเลย! พวกเขาน่าจะเป็นมนุษย์คู่สุดท้ายที่คุณจะคิดว่ามีอะไรเกี่ยวข้องกับเรื่องแปลกประหลาดหรือลึกลับ เพราะพวกเขาจะไม่มีวันเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องไร้สาระแบบนั้นเด็ดขาด..."



(ที่ผมจำได้ขึ้นใจ เพราะผมอ่านกลับไปกลับมาหลายรอบ จริงๆนะ)



เมื่อเริ่มอ่านไปเรื่อยๆ ขอบอกเลยว่าผมวางไม่ลงจริงๆ เนื้อหาของเรื่องชวนน่าติดตามและรอให้ลุ้นอยู่ตลอดว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ผมจำได้เลยว่าตัวเองนอนดึกไป 3 วันจนคุณแม่เองก็ตำหนิว่า"จะอ่านอะไรนักหนา นอนแต่หัวค่ำบ้างสิ" 5555++



ผมหลงไหลในการพรรณนาบทความของ เจ.เค. ที่เธอสามารถเนรมิตรดินแดนเวทย์มนตร์ลงบนหน้ากระดาษได้อย่างน่าอัศจรรย์ อีกทั้งเนื้อเรื่องยังชวนให้ติดตามและวางไม่ลงจริงๆ เหมือนผมโดนคาถาของเธอเข้า (ฮ่าาาาา)



และแน่นอนว่าผมไม่ได้อ่านรอบเดียว เล่ม 1 ผมอ่านกลับไปกลับมาจนนับไม่ถ้วน



และนี่คือจุดเริ่มต้นของผมกับแฮร์รี่  ^^










To Be Continue....