เกริ่นเรื่องซีรีส์ไว้เยอะมั่ก ในคราวก่อน 55+
คราวนี้จะมาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ ในประวัติศาสตร์ โดยจะเอาภาพจากซีรีส์มาประกอบให้เห็นเป็นภาพเหตุการณ์ละกันนะ
แต่บอกไว้ตรงนี้ก่อนว่า.. เรื่องบางเรื่องยังไม่ได้รับการยืนยันในประวัติศาสตร์ว่าเกิดขึ้นจริง แต่เป็นจินตนาการของผู้เขียนบทละครซีรีส์ เสริมแต่งเข้าไปเพื่อให้เนื้อเรื่องน่าติดตามขึ้น
โอเค..
เรื่องที่ผมจะเล่านะครับ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในรัชสมัยพระเจ้ายอนซัน กษัตริย์องค์ที่ 10 ของราชวงศ์โชซอน
เป็นช่วงเวลาที่เรียกว่ายุคมืดของโชซอนเลยก็ว่าได้ เกิดการฆ่าล้างหมู่เหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์ไปจำนวนมาก ทำให้ราชสำนักเข้าสู่ความระส่ำระสายและบ้านเมืองเกิดความเดือดร้อนไปทุกที่
เนื่องจากความไม่เอาใจใส่ของพระเจ้ายอนซัน วันๆ ทรงเอาแต่ดื่มสุราและร้องรำทำเพลงจนไม่สนใจราชกิจ
แล้วสาเหตุอะไรที่ทำให้พระเจ้ายอนซันเป็นแบบนั้น..
คำตอบสั้นๆ คือ.. การแก้แค้นให้เสด็จแม่ของตนเอง
จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์.. ต้องย้อนกลับไปในสมัยพระเจ้าซองจง กษัตริย์องค์ที่ 9 ของราชวงศ์โชซอน..
พระเจ้าซองจง
(แสดงโดย โคจูวอน จากเรื่องคิมชูซอน)
ประวัติโดยคร่าวๆ ของพระเจ้าซองจงคือ
เป็นโอรสองค์ที่สองในรัชทายาทอึกยองซึ่งเป็นโอรสองค์โตของพระเจ้าเซโจ (กษัตริย์ลำดับที่ 7) มีพระนามเดิมว่า องค์ชายชัลซาน ดังนั้นพระเจ้าซองจงจึงมีศักดิ์เป็นหลานแท้ๆ ของพระเจ้าเซโจ
พระบิดาของพระเจ้าซองจง ซึ่งก็คือ รัชทายาทอึกยอง ได้สิ้นพระชนม์ไปหลังที่พระเจ้าซองจงประสูติได้ไม่ถึงปี เมื่อพระบิดาสิ้นพระชนม์ พระองค์จึงต้องย้ายออกไปอยู่นอกวังพร้อมกับพระมารดา ซึ่งก็คือ พระชายาซูบิน จากตระกูลฮัน ตามกฏของราชสำนัก
หลังจากอยู่นอกวังได้ 12 ปี พระเจ้าเยจง (กษัตริย์ลำดับที่ 8) ก็เสด็จสวรรคตหลังครองราชย์ได้เพียง 1 ปี 2 เดือน สมเด็จพระพันปีหลวงจองฮี (มเหสีในพระเจ้าเซโจ มีศักดิ์เป็นเสด็จย่าของพระเจ้าซองจง) จึงเลือก องค์ชายชัลซาน ขึ้นเป็นพระราชาองค์ใหม่ พร้อมกับให้ย้ายพระชายาซูบินกลับมาประทับในวังหลวง และแต่งตั้งเป็น สมเด็จพระพันปีหลวงอินซู
(ส่วนสมเด็จพระพันปีหลวงจองฮี ได้เลื่อนฐานะเป็น สมเด็จพระอัยยิกาเจ้า ดำรงตำแหน่งผู้อาวุโสสูงสุดของราชสำนัก)
ซ้าย - สมเด็จพระอัยยิกาจองฮี (นำแสดงโดย ยางมิเคียว)
ขวา - สมเด็จพระพันปีหลวงอินซู (นำแสดงโดย จองอินฮวา)
(จากเรื่อง บันทึกรักคิมชูซอนฯ)
พระพันปีหลวงอินซู
(นำแสดงโดย แชซิรา)
พระอัยยิกาจองฮี
(นำแสดงโดย คิมมีซอก)
(จากเรื่อง ราชินีอินซู)
แต่ในเรื่อง ราชินีอินซู แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เกิดความไม่ลงรอยกันระหว่างแม่สามีกับลูกสะใภ้คู่นี้ ตัวอย่างเช่น พระอัยยิกาจองฮีคัดค้านไม่ให้ชายาซูบินกลับเข้ามาประทับในวัง และตั้งใจที่จะไม่ให้ตำแหน่งพระพันปีแก่นาง
[เรื่องระหว่างแม่ผัวลูกสะใภ้คู่นี้ ก็แล้วแต่มุมมองแต่ละคนนะครับ.. ]
ออกอ่าวอีกแล้ว เขียนเพลิน.. = =''
โอเค.. ประเด็นที่จะนำเสนอคือ เรื่อง มเหสีของพระเจ้าซองจง..
ในตอนแรกนั้น พระเจ้าซองจงทรงมีพระมเหสีคู่บัลลังก์อยู่แล้วคือ สมเด็จพระราชินีคยองเฮ จากตระกูล ฮัน ทรงอภิเษกตั้งแต่ตอนที่ยังอยู่นอกวัง แต่หลังจากพระเจ้าซองจงครองราชย์ได้ไม่นาน มเหสีคยองเฮก็สวรรคต
สมเด็จพระราชินีคยองเฮ
(นำแสดงโดย คิมฮเยจิน)
ในตอนนั้นพระเจ้าซองจงทรงมีสนมเอกอยู่ 4 คน คือ สนมโซฮวา สนมซุกยอน สนมออมควีอิน สนมชองควิอิน ในสนมทั้ง 4 คนนี้ คนที่มีโอรสให้พระเจ้าซองจงก่อนเป็นคนแรกคือสนมโซฮวา และพระโอรสองค์นี้ก็คือ องค์ชายรัชทายาทยอนซัน
ดังนั้น พระเจ้าซองจง จึงตั้งใจที่จะเลือกสนมโซฮวาเป็นมเหสีขึ้นมาแทน แต่ถูกค้านอย่างหนักจากเหล่าขุนนางและสมเด็จพระพันปีหลวงอินซู
**ตามประวัติศาสตร์กล่าวว่า พระเจ้าซองจงนั้นทรงชอบพอกับสนมโซฮวามาตั้งแต่อยู่นอกวัง แต่ที่ต้องทรงอภิเษกกับมเหสีคยองเฮนั้น เป็นเหตุผลทางการเมืองจากพระมารดา (คือพระพันปีหลวงอินซู) ที่ต้องการรักษาฐานอำนาจของสกุลฮัน อีกทั้งสนมโซฮวาเป็นคนเถรตรง ไม่ยอมคนง่ายๆ จึงไม่เป็นที่ชอบพระทัยกับพระพันปีหลวงอินซูเท่าใดนัก**
สมเด็จพระราชินีโซฮวา
(นำแสดงโดย คูเฮซอน)
สุดท้ายแล้วคนที่มีส่วนช่วยผลักดันให้สนมโซฮวาสู่ตำแหน่งมเหสีคือ สมเด็จพระอัยยิกาจองฮี โดยทรงให้เหตุผลประกอบว่า เป็นความตั้งใตของพระเจ้าซองจงและสนมโซฮวาก็มีโอรสให้พระเจ้าซองจงได้เชยชมเป็นคนแรก ฉะนั้น นางจึงเหมาะกับตำแหน่งนี้อย่างไม่ต้องสงสัย
ดังนั้นสนมโซฮวาจึงถูกแต่งตั้งเป็นสมเด็จพระราชินีโซฮวา
**แต่ถ้ามองอีกมุมคือ สมเด็จพระอัยยิกาจองฮีนั้นเป็นคนสกุลยุน ซึ่งสนมโซฮวาก็มาจากสกุลยุนเหมือนกัน เหมือนจะเป็นการคานอำนาจระหว่างสกุลยุนและสกุลฮัน**
ถึงแม้โซฮวาจะถูกแต่งตั้งเป็นมเหสีไปแล้ว แต่ความบาดหมางระหว่างพระนางกับสมเด็จพระพันปีหลวงอินซูก็ยังไม่ได้หายไป
**เชื่อกันว่าสมเด็จพระพันปีหลวงอินซูกับพระเจ้าซองจง เป็นแม่ลูกที่ไม่ค่อยมีความรักระหว่างกันอย่างที่ควรเป็น ความเข้มงวดและการแทรกแซงราชกิจทุกเรื่องจากพระมารดา ทำให้พระเจ้าซองจงรู้สึกเกรงกลัวและไม่อยากที่จะสนทนากับพระมารดาเท่าไรนัก อีกทั้งยุนโซฮวานั้นมีอายุมากกว่าพระเจ้าซองจงเกือบ 10 ปี จึงเป็นเสมือนพี่เลี้ยงที่คอยปรับทุกข์ให้กับพระองค์อยู่เสมอ นั่นยิ่งทำให้ความรักระหว่างแม่ลูกของพระเจ้าซองจงกับสมเด็จพระพันปีหลวงอินซูยิ่งเหินห่างออกไป เป็นธรรมดาที่พระพันปีอินซูจะไม่ชอบมเหสีโซฮวาผู้เป็นลูกสะใภ้**
ความบาดหมางระหว่างแม่สามีกับลูกสะใภ้ นับวันยิ่งจะเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดรอยร้าวระหว่างมเหสีโซฮวากับพระพันปีอินซูก็กว้างเกินกว่าจะประสานติดได้
จากความไม่ลงรอยตรงนี้ ใครจะไปรู้ว่าจะนำจุดจบมาสู่มเหสีโซฮวา เรื่องราวถึงจุดแตกหักเมื่อเกิดอุบัติเหตุ มเหสีโซฮวาข่วนพระพักตร์พระเจ้าซองจงจนเป็นแผล เมื่อความทราบถึงพระพันปีอินซู คงไม่ต้องบอกว่าทรงกริ้วมากขนาดไหน อีกทั้งก่อนหน้านี้ มีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้นภายในวัง เช่น สนมแท้งลูก การทำคุนไสยใส่คนในวัง พระพันปีอินซูพร้อมที่จะเชื่อว่าเป็นฝีมือของมเหสีโซฮวาอยู่แต่แรกแล้ว
ฉะนั้น.. เมื่อเกิดกรณีขึ้นกับพระเจ้าซองจง พระนางจึงยื่นคำขาดให้พระเจ้าซองจง สั่งปลดมเหสีโซฮวาออกจากตำแหน่ง พระเจ้าซองจงผู้ซึ่งเกรงกลัวพระมารดาอยู่แล้ว จะทรงคัดค้านอะไรได้อีก
มเหสีโซฮวาถูกปลดจากตำแหน่งเป็นสามัญชนหลังจากอยู่ในตำแหน่งมเหสีมาถึง 5 ปี
เรื่องราวดูเหมือนจะจบลงเพียงแค่นี้.. พระนางควรจะได้ใช้ชีวิตนอกวังอย่างสงบ ไม่ต้องมีใครมาคอยใส่ร้ายหรือจ้องจะเล่นงานพระนางอีก
แต่แล้วในอีก 2 ปีต่อมา ก็มีราชโองการจากพระเจ้าซองจง (ซึ่งแน่นอนว่าถูกบังคับจากสมเด็จพระพันปีหลวงอินซู) ให้สั่งประหารอดีตมเหสีโซฮวา
**ตามพงศาวดารฉบับชิลชก บอกว่า พระนางพยายามจะสาปแช่งทุกคน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทำให้พระนางต้องออกจากตำแหน่งมเหสี พระพันปีหลวงอินซูทราบเข้า จึงเห็นว่าหากนางอยู่ต่อไปรังแต่จะนำความวิบัติมาสู่ราชสำนัก จึงสั่งพระเจ้าซองจงให้ประหารนางเสีย..**
สำหรับพระเจ้าซองจงแล้ว ไม่ต้องถามว่าทรงเสียพระทัยมากขนาดไหน แต่ในเมื่อเป็นรับสั่งของพระมารดาอีกทั้งต้องทรงทำหน้าที่ในฐานะพระราชาของประเทศนี้.. จึงทรงต้องสั่งประหารมเหสีโซฮวา พร้อมกับทรงออกกฏหมาย ห้ามใครพูดถึงเรื่องของมเหสีโซฮวานี้ต่อไปเป็นเวลา 100 ปี
**คาดว่าทรงต้องการไม่ให้องค์ชายยอนซันได้ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับพระมารดาของตนเอง อันจะสร้างความสะเทือนใจให้แก่องค์ชายยอนซัน**
อีกคนหนึ่งที่เสียพระทัยมากคือ สมเด็จพระอัยยิกาจองฮี หลังจากการประหารอดีตมเหสียุนโซฮวาไม่กี่เดือน ก็ทรงประชวรอย่างหนักและสวรรคตในเวลาต่อมา นักประวัติศาสตร์หลายคนคาดว่า พระนางคงสะเทือนใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดกับหลานสะใภ้ ประกอบกับพระชนมายุมากแล้ว ทำให้พระวรกายไม่ค่อยแข็งแรงนัก..
(มเหสีโซฮวาถูกประหารในปี ค.ศ. 1502 สมเด็จพระอัยยิกาจองฮีสวรรคตในปี ค.ศ. 1503)
หลังจากมเหสีโซฮวาถูกประหารไปแล้ว.. เกิดอะไรขึ้นกับองค์ชายยอนซัน ?
ถามว่าทรงรู้เรื่องพระมารดาไหม ?
คำตอบคือ >> รู้ในเวลาต่อมาไม่นานนัก เพียงแต่ทรงทราบแค่ว่าพระมารดาได้สิ้นพระชนม์ไปแล้วเท่านั้น แต่ไม่ได้ทรงทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงในการสิ้นพระชนม์ของพระมารดา
ดังนั้น.. พระเจ้าซองจงและสมเด็จพระพันปีหลวงอินซู จึงคิดว่า ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไรถ้าแต่งตั้งองค์ชายยอนซันเป็นรัชทายาท หากทุกคนปกปิดเรื่องของมเหสีโซฮวาไว้ อีกทั้งยังมีกฏที่พระเจ้าซองจงทรงออกมาว่า ห้ามใครพูดเรื่องมเหสีโซฮวาเป็นเวลา 100 ปี
**ถึงแม้สมเด็จพระพันปีหลวงอินซูจะทรงเกลียดมเหสีโซฮวามาก แต่กับองค์ชายยอนซันแล้วทรงรักมากเพราะเป็นหลานชายคนแรกและทรงคาดหวังกับหลานชายคนนี้มากว่าจะเป็นพระราชาที่ดีในอนาคตได้อย่างแน่นอน**
แล้วตำแหน่งมเหสีที่ว่างลงนั้น ใครมาแทน.. ?
คำตอบคือ สนมซุกยอน จากสกุลยุน 1 ในสนมเอกทั้ง 4 ของพระเจ้าซองจงนั่นเอง
สมเด็จพระราชินีชางมยอน
(นำแสดงโดย ลีจิน)
หลังจากการปลดมเหสีโซฮวาไม่นาน สมเด็จพระพันปีหลวงอินซูได้แต่งตั้งมเหสีองค์ใหม่ทันที โดยเลือกสนมเอกซุกยอน เนื่องจาก บุคลิกและการวางตัวที่นอบน้อมและเคารพต่อผู้อาวุโสและคนที่อยู่สูงกว่า แม้แต่กับมเหสีโซฮวาเอง สนมซุกยอนก็ยังรักและให้ความเคารพกับพระนาง ซึ่งมเหสีโซฮวาก็ไว้ใจในตัวสนมซุกยอนมากกว่าสนมคนอื่นๆ
ดังนั้น สนมซุกยอน จึงได้รับการแต่งตั้งเป็นมเหสีองค์ที่ 3 ของพระเจ้าซองจง พระนามว่า สมเด็จพระราชินีชางมยอน
และนอกจากนี้สมเด็จพระราชินีชางมยอนยังทรงรับองค์ชายยอนซันเป็นโอรสบุญธรรม ทำให้ฐานะรัชทายาทขององค์ชายยิ่งมั่นคงมากขึ้นไปอีก
พระเจ้าซองจงเสด็จสวรรคตในปี ค.ศ. 1494 องค์รัชทายาทยอนซันเสด็จขึ้นครองราชย์ต่อจากพระบิดาเป็นพระเจ้ายอนซัน กษัตริย์ลำดับที่ 10 ของราชวงศ์โชซอน
พระเจ้ายอนซัน
(จากเรื่องคิมชูซอน)
เมื่อพระเจ้ายอนซันครองราชย์แล้ว สมเด็จพระพันปีหลวงอินซูได้รับการแต่งตั้งเป็นสมเด็จพระอัยยิกาเจ้าอินซู และสมเด็จพระราชินีชางมยอน ได้รับการแต่งตั้งเป็น สมเด็จพระพันปีหลวงจาซุน
สมเด็จพระอัยยิกาเจ้าอินซู
(จากเรื่องคิมชูซอน)
สมเด็จพระพันปีหลวงจาซุน
(จากเรื่องคิมชูซอน)
เหตุการ์ณตอนต้นรัชกาลของพระเจ้ายอนซัน เกิดเหตุการณ์แรกคือ การฆ่าล้างหมู่นักปราญ์ปีมูโอ (ปี ค.ศ. 1498)
สมัยพระเจ้ายอนซันนั้นมีขั้วอำนาจขุนนางใหม่ขึ้นมาคือ ขุนนางกลุ่มซาริม ซึ่งเป็นปรปักษ์กับขุนนางดั้งเดิมที่รับใช้ราชสำนักมาแต่สมัยพระเจ้าซองจง
เรื่องเริ่มขึ้นเมื่อขุนนางกลุ่มซาริมคนหนึ่งชื่อ คิมอิลซุน ได้อ้างอิงบทความจากคิมจงจิผู้เป็นอาจารย์ของตน ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการยึดอำนาจของพระเจ้าเซโจจากองค์ชายโนซานว่าเป็นการไม่ชอบธรรม นำมาเขียนในบันทึกประวัติศาสตร์ของราชวงศ์
เมื่อเรื่องนี้ทราบถึงพระเจ้ายอนซัน ก็ทรงพิโรธมากที่คิมอิลซุนกล่าวหาพระเจ้าเซโจผู้เป็นพระปัยกา (ปู่ทวด) ถึงขั้นทรงเอาบันทึกราชวงศ์มาอ่านดูว่าคิมอิลซุนนั้นเขียนอะไรลงไปบ้าง ซึ่งตามกฏของราชสำนัก พระราชาไม่มีสิทธิอ่านบันทึกของราชวงศ์ อันเป็นหลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์
เมื่อเรื่องเกิดขึ้นดังนี้ ขุนนางกลุ่มดั้งเดิม จึงทูลยุยงให้พระเจ้ายอนซันลงโทษขุนนางกลุ่มซาริม โดยให้เหตุผลว่า การกล่าวหาของคิมอิลซุนนั้น ส่อถึงว่า พระเจ้าเซโจไม่มีความชอบธรรมในการครองราชย์
สิ่งที่เกิดตามมาคือ ขุนนางกลุ่มซาริมทุกคนถูกประหารชีวิต อย่างดีสุดก็คือเนรเทศออกจากเมืองหลวง แม้แต่คนที่ตายไปแล้วอย่าง คิมจงจิก อาจารย์ของ คิมอิลซุน ยังถูกขุดศพขึ้นมาทำลายอีกด้วย
หลังจากนั้นต่อมาอีก 6 ปี ก็เกิดเหตุการณ์ที่สองขึ้นคือ การฆ่าล้างหมู่นักปราญ์ปีคัปจา (ปี ค.ศ. 1504)
หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "การล้างแค้นให้กับมเหสีโซฮวา ผู้เป็นพระมารดาของพระเจ้ายอนซัน"
จากที่กล่าวมาแล้วว่า หลังการสำเร็จโทษอดีตมเหสีโซฮวา พระเจ้าซองจงได้ออกกฏหมายห้ามใครพูดเรื่องนี้ต่อไปเป็นเวลา 100 ปี
แต่สุดท้าย.. ก็มีขุนนางปากบอน ทูลเรื่องนี้ออกมาให้พระเจ้ายอนซันรับรู้ คือ ลิมซาฮง และ ชินซูกึน
ซึ่งนำความหายนะครั้งใหญ่มาสู่ราชวงศ์โชซอน..
เมื่อทรงทราบเรื่องพระมารดา พระเจ้ายอนซันจึงรับสั่งให้ทุกคนที่มีส่วนร่วมในการให้ร้ายพระมารดาจนทำให้นางถูกปลดและประหารชีวิต ไม่ว่าคนๆ นั้นจะมีเอี่ยวมากหรือน้อยก็ตาม ต้องถูกจับมาประหารชีวิตทั้งหมด
คนกลุ่มแรกที่ถูกจัดการคือกลุ่มขุนนาง โดยเฉพาะขุนนางอาวุโสหรือขุนนางผู้ใหญ่ที่เป็นขุนนางเก่าของพระเจ้าซองจง ต่างถูกจับตัวมาประหารชีวิตทั้งหมด และแน่นอน.. ถ้าใครที่เสียชีวิตไปแล้ว จะถูกขุดศพขึ้นมาเพื่อทำลายทิ้ง
(จากเรื่องคิมชูซอน)
นับแต่นั้นมาราชสำนักก็เข้าสู่กลียุค ใครก็ตามที่ขัดพระทัยขององค์ชายยอนซัยแม้เพียงน้อยนิดล้วนถูกประหารชีวิต องค์ชายยอนซันทรงเลิกสนพระทัยกิจการบ้านเมืองและประพฤติตนแหลวแหลกใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ทรงให้นางโลมหรือคีแซงเข้ามาอยู่ในพระราชวังเพื่อหลับนอน
แน่นอนว่าสมเด็จพระอัยยิกาอินซูในฐานะผู้อาวุโสสูงสุด เริ่มรับไม่ได้กับพฤติกรรมของหลานชายคนนี้เข้าทุกวัน ทรงออกหน้าตักเตือนพระเจ้ายอนซันอยู่หลายครั้ง แต่ก็ดูเหมือนยิ่งราดน้ำมันเข้ากองไฟ ยิ่งทรงออกหน้าพูดกับพระเจ้ายอนซันมากเท่าไร ดูเหมือนจะทำให้พระเจ้ายอนซันยิ่งโหมไฟแค้นในใจที่มีต่อเหตุการณ์ของพระมารดามากขึ้นเท่านั้น
เมื่อการกวาดล้างขุนนางที่มีส่วนให้ร้ายมเหสีโซฮวาผ่านไปแล้ว พระเจ้ายอนซันจึงมีรับสั่งว่าจะคืนยศพระมเหสีให้กับพระมารดา แน่นอนว่าถูกคัดค้านอย่างหนักจากสมเด็จพระอัยยิกาอินซู
นั่นทำให้เกิดเหตุการณ์ฆ่าล้างหมู่อีกครั้งหนึ่งในปีเดียวกัน..
เมื่อพระเจ้ายอนซันทรงทราบว่า คนของฝ่ายใน ทั้งซังกุง นางใน รวมไปถึงสนมเอกของพระเจ้าซองจงผู้เป็นพระบิดา ต่างก็มีส่วนในการให้ร้ายพระมารดาของตนเช่นกัน
และทรงหมายรวมไปถึง.. สมเด็จพระอัยยิกาเจ้าอินซู ผู้เป็นเสด็จย่าแท้ๆ ของพระองค์
(จากเรื่อง ราชินีอินซู)
บรรดานางในและซังกุงที่ถูกนำมาสำเร็จโทษนั้น.. ส่วนใหญ่แล้วเป็นแต่ซังกุงอาวุโส ทั้งปลดเกษียณแล้ว หรือ เป็นซังกุงคนสนิทของสมเด็จพระอัยยิกาอินซูและสมเด็จพระพันปีหลวงจาซุน
แน่นอนว่า สมเด็จพระอัยยิกาเจ้าอินซู ทรงขัดขวางพระเจ้ายอนซันถึงที่สุด ในการจับซังกุงคนสนิทของพระนางไปสำเร็จโทษ เรื่องราวจบลงที่พระเจ้ายอนซันทำร้ายร่างกายสมเด็จพระอัยยิกาเจ้าอินซู ผู้เป็นเสด็จย่าของตนเอง จนพระองค์ตรอมพระทัยจนล้มป่วยในที่สุด
เมื่อสำเร็จโทษบรรดาซังกุงแล้ว คนต่อไปที่ตามมาคือ สนมเอกของพระเจ้าซองจงทั้งสอง คือ สนมออมควีอิน สนมชองควิอิน
สนมชองควีอินถูกสำเร็จโทษ
(จากเรื่องคิมชูซอน)
ไม่ปรากฏหลักฐานว่าพระเจ้ายอนซันสำเร็จโทษสนมทั้งสองอย่างไร แต่นอกจากสนมเอกมทั้งสองจะถูกสำเร็จโทษแล้ว องค์ชายอันยางและองค์ชายพงอัน โอรสซึ่งเกิดจากพระเจ้าซองจงกับสนมชองควิอิน ยังถูกสำเร็จโทษตามพระมารดาไปด้วย
สนมออมควีอินถูกสำเร็จโทษ
(จากเรื่องคิมชูซอน)
**สนมสองคนนี้ ไม่เป็นที่โปรดปรานของมเหสีโซฮวา อีกทั้งยังเคยมีเรื่องพิพาทกันอยู่บ่อยๆ ครั้ง โดยเฉพาะสนมชองควิอิน ที่เคยแท้งลูกในช่วงที่มเหสีโซฮวาอยู่ในตำแหน่ง นางปักใจเชื่อว่าสาเหตุที่นางแท้งลูกนั้นเป็นฝีมือของมเหสีโซฮวา**
(จากเรื่อง ราชินีอินซู)
สำหรับสมเด็จพระอัยยิกาเจ้าอินซู ตามบันทึกประวัติศาสตร์กล่าวว่า พระเจ้ายอนซันทรงสั่งประหารในเวลาต่อมา โดยการตัดแขน-ขาสมเด็จพระอัยยิกาเจ้าอินซู ผู้เป็นเสด็จย่าแท้ๆ ของพระองค์เอง -- (จากเหตุการณ์นี้ทำให้นักประวัติศาสตร์ยุคหลังไม่ยอมรับพระเจ้ายอนซันในฐานะพระราชา)
**ในซีรีส์เกาหลีหลายๆ เรื่อง พยายามเสนอมุมมองที่ต่างออกไปว่า พระเจ้ายอนซันอาจไม่ได้สั่งประหารสมเด็จพระอัยยิกาเจ้าอินซู หากแต่เกิดการกระทบกระทั่งกันอย่างรุนแรงระหว่างสมเด็จพระอัยยิกาเจ้าอินซูและพระเจ้ายอนซัน ทำให้สมเด็จพระอัยยิกาเจ้าอินซูทรงตรอมพระทัยอย่างมากและสิ้นพระชนม์ในเวลาต่อมา**
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสมเด็จพระอัยยิกาเจ้าอินซู ทำให้เกิดความหวาดกลัวไปทั่วราชสำนัก ไม่ว่าข้าราชบริพารคนใดก็ไม่กล้าทูลเตือนพระเจ้ายอนซันอีกต่อไป เพราะต่างกลัวโดนโทษประหารกันทั้งสิ้น จึงเป็นช่องทางให้ขุนนางหลายๆ คนอาศัยช่วงนี้ ในการสร้างฐานอำนาจให้กับตนเอง
ถามว่าเหตุการณ์นี้จบลงอย่างไร..
มีขุนนางกลุ่มหนึ่งซึ่งเห็นแล้วว่า หากเป็นเช่นนี้ต่อไป บ้านเมืองจะถึงคราวหายนะอย่างแท้จริงแน่นอน จึงได้รวมกลุ่มกันเพื่อที่จะโค่นล้มพระเจ้ายอนซัน เรียกเหตุการณ์นี้ว่า รัฐประหารพระเจ้ายอนซัน
แกนนำหลักมี 3 คนคือ ปาร์ควอนจง, ซองฮีอัน และ ยูชูซอง
กลุ่มรัฐประหาร เล็งเห็นว่า คนที่เหมาะจะเป็นพระราชาองค์ต่อไปคือ องค์ชายจินซอง
องค์ชายจินซอง หรือ พระเจ้าจุงจง กษัตริย์ลำดับที่ 11 แห่งโชซอน
(จากเรื่องคิมชูซอน)
องค์ชายจินซองเป็นโอรสของพระเจ้าซองจงซึ่งเกิดกับสมเด็จพระราชินีชางมยอน (คือสมเด็จพระพันปีจาซุนในปัจจุบัน) มีศักดิ์เป็นพระอนุชาต่างมารดาของพระเจ้ายอนซัน
ฉะนั้นคณะรัฐประหารจึงก่อการขึ้นในปี ค.ศ. 1506 โดยบุกเข้าพระราชวังคยองบกในตอนกลางดึก สังหารขุนนางและลิ่วล้อที่คอยยุยงพระเจ้ายอนซันจนหมดสิ้น ก่อนที่จะคุมตัวพระเจ้ายอนซันไว้ภายในตำหนักใหญ่ และนำตราหยกส่วนพระองค์ของพระราชา ไปเข้าเฝ้าสมเด็จพระพันปีหลวงจาซุนพร้อมกัน
(จากเรื่องคิมชูซอน)
แน่นอนว่าสมเด็จพระพันปีหลวงจาซุนรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แม้ทรงรู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่คณะรัญประหารทำไป ก็เพื่อเห็นแก่บ้านเมืองที่กำลังวิกฤติอยู่ในตอนนี้ แต่พระเจ้ายอนซันก็เป็นโอรสบุญธรรมของพระนาง แต่เมื่อคณะรัฐประหารรายงานสถานการณ์ว่าตอนนี้พวกเขาคุมวังหลวงไว้ได้ทั้งหมดแล้ว เสมือนเป็นการบีบให้สมเด็จพระพันปีหลวงจาซุนต้องทำตาม พระนางจึงไม่มีทางเลือก..
(จากเรื่องคิมชูซอน)
พระเจ้ายอนซันถูกปลดและลดฐานะให้เป็นเพียงองค์ชายยอนซัน พร้อมกันนั้นแม้แต่มเหสีของพระเจ้ายอนซัน สมเด็จพระราชินีมุนซอง ให้ลดฐานะเป็นเพียงองค์หญิงมุนซอง และองค์รัชทายาท ก็ให้ถูกปลดด้วย และเนรเทศทั้งหมดไปยังเกาะคังฮวา
องค์ชายยอนซันใช้ชีวิตอยู่ที่เกาะคังฮวาไม่นานก็สิ้นพระชนม์ในปีเดียวกัน ทรงไม่ได้รับพระนามกษัตริย์เขียนไว้ที่ป้ายสุสาน และ ทรงเป็นที่จดจำในฐานะกษัตริย์ที่อื้อฉาวที่สุดของราชวงศ์โชซอน
เขียน 2 วัน กว่าจะจบ -0-
ถามว่ามันส์ไหม ตอบได้เลยว่ามันส์สุดๆ 555+
คราวหน้าว่าจะเขียนเรื่องสนมฮีบินล่ะ (ใจจริงอยากเขียนเรื่องราชินีเมียงซองก่อนนะ 55+)