วันพุธที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2556

องค์ชายยอนซัน ยุคมืดของราชวงศ์โชซอน


เกริ่นเรื่องซีรีส์ไว้เยอะมั่ก ในคราวก่อน 55+

คราวนี้จะมาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ ในประวัติศาสตร์ โดยจะเอาภาพจากซีรีส์มาประกอบให้เห็นเป็นภาพเหตุการณ์ละกันนะ

แต่บอกไว้ตรงนี้ก่อนว่า.. เรื่องบางเรื่องยังไม่ได้รับการยืนยันในประวัติศาสตร์ว่าเกิดขึ้นจริง แต่เป็นจินตนาการของผู้เขียนบทละครซีรีส์ เสริมแต่งเข้าไปเพื่อให้เนื้อเรื่องน่าติดตามขึ้น


โอเค..


เรื่องที่ผมจะเล่านะครับ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในรัชสมัยพระเจ้ายอนซัน กษัตริย์องค์ที่ 10 ของราชวงศ์โชซอน

เป็นช่วงเวลาที่เรียกว่ายุคมืดของโชซอนเลยก็ว่าได้ เกิดการฆ่าล้างหมู่เหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์ไปจำนวนมาก ทำให้ราชสำนักเข้าสู่ความระส่ำระสายและบ้านเมืองเกิดความเดือดร้อนไปทุกที่

เนื่องจากความไม่เอาใจใส่ของพระเจ้ายอนซัน วันๆ ทรงเอาแต่ดื่มสุราและร้องรำทำเพลงจนไม่สนใจราชกิจ

แล้วสาเหตุอะไรที่ทำให้พระเจ้ายอนซันเป็นแบบนั้น..

คำตอบสั้นๆ คือ..  การแก้แค้นให้เสด็จแม่ของตนเอง


จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์.. ต้องย้อนกลับไปในสมัยพระเจ้าซองจง กษัตริย์องค์ที่ 9 ของราชวงศ์โชซอน..


พระเจ้าซองจง
(แสดงโดย โคจูวอน จากเรื่องคิมชูซอน)

 
ประวัติโดยคร่าวๆ ของพระเจ้าซองจงคือ

เป็นโอรสองค์ที่สองในรัชทายาทอึกยองซึ่งเป็นโอรสองค์โตของพระเจ้าเซโจ (กษัตริย์ลำดับที่ 7) มีพระนามเดิมว่า องค์ชายชัลซาน ดังนั้นพระเจ้าซองจงจึงมีศักดิ์เป็นหลานแท้ๆ ของพระเจ้าเซโจ

พระบิดาของพระเจ้าซองจง ซึ่งก็คือ รัชทายาทอึกยอง ได้สิ้นพระชนม์ไปหลังที่พระเจ้าซองจงประสูติได้ไม่ถึงปี เมื่อพระบิดาสิ้นพระชนม์ พระองค์จึงต้องย้ายออกไปอยู่นอกวังพร้อมกับพระมารดา ซึ่งก็คือ พระชายาซูบิน จากตระกูลฮัน ตามกฏของราชสำนัก

หลังจากอยู่นอกวังได้ 12 ปี พระเจ้าเยจง (กษัตริย์ลำดับที่ 8) ก็เสด็จสวรรคตหลังครองราชย์ได้เพียง 1 ปี 2 เดือน สมเด็จพระพันปีหลวงจองฮี (มเหสีในพระเจ้าเซโจ มีศักดิ์เป็นเสด็จย่าของพระเจ้าซองจง) จึงเลือก องค์ชายชัลซาน ขึ้นเป็นพระราชาองค์ใหม่ พร้อมกับให้ย้ายพระชายาซูบินกลับมาประทับในวังหลวง และแต่งตั้งเป็น สมเด็จพระพันปีหลวงอินซู
(ส่วนสมเด็จพระพันปีหลวงจองฮี ได้เลื่อนฐานะเป็น สมเด็จพระอัยยิกาเจ้า ดำรงตำแหน่งผู้อาวุโสสูงสุดของราชสำนัก)    


 ซ้าย - สมเด็จพระอัยยิกาจองฮี (นำแสดงโดย ยางมิเคียว)
ขวา - สมเด็จพระพันปีหลวงอินซู (นำแสดงโดย จองอินฮวา)
(จากเรื่อง บันทึกรักคิมชูซอนฯ)

 ในเรื่อง บันทึกรักคิมชูซอนฯ ไม่ได้แสดงอย่างชัดเจนว่า เกิดความไม่ลงรอยกันระหว่างพระอัยยิกาจองฮีและพระพันปีอินซู แต่ก็เห็นได้ในหลายๆ ครั้งที่พระอัยยิกาจองฮีไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจในหลายๆ เรื่องของพระพันปีอินซู


 พระพันปีหลวงอินซู 
 (นำแสดงโดย แชซิรา)


พระอัยยิกาจองฮี
(นำแสดงโดย คิมมีซอก)
 (จากเรื่อง ราชินีอินซู)

แต่ในเรื่อง ราชินีอินซู แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เกิดความไม่ลงรอยกันระหว่างแม่สามีกับลูกสะใภ้คู่นี้ ตัวอย่างเช่น พระอัยยิกาจองฮีคัดค้านไม่ให้ชายาซูบินกลับเข้ามาประทับในวัง และตั้งใจที่จะไม่ให้ตำแหน่งพระพันปีแก่นาง

[เรื่องระหว่างแม่ผัวลูกสะใภ้คู่นี้ ก็แล้วแต่มุมมองแต่ละคนนะครับ.. ]


ออกอ่าวอีกแล้ว เขียนเพลิน.. = =''

โอเค.. ประเด็นที่จะนำเสนอคือ เรื่อง มเหสีของพระเจ้าซองจง..



ในตอนแรกนั้น พระเจ้าซองจงทรงมีพระมเหสีคู่บัลลังก์อยู่แล้วคือ สมเด็จพระราชินีคยองเฮ จากตระกูล ฮัน ทรงอภิเษกตั้งแต่ตอนที่ยังอยู่นอกวัง แต่หลังจากพระเจ้าซองจงครองราชย์ได้ไม่นาน มเหสีคยองเฮก็สวรรคต


 สมเด็จพระราชินีคยองเฮ
(นำแสดงโดย คิมฮเยจิน)


ในตอนนั้นพระเจ้าซองจงทรงมีสนมเอกอยู่ 4 คน คือ สนมโซฮวา สนมซุกยอน สนมออมควีอิน สนมชองควิอิน ในสนมทั้ง 4 คนนี้ คนที่มีโอรสให้พระเจ้าซองจงก่อนเป็นคนแรกคือสนมโซฮวา และพระโอรสองค์นี้ก็คือ องค์ชายรัชทายาทยอนซัน

ดังนั้น พระเจ้าซองจง จึงตั้งใจที่จะเลือกสนมโซฮวาเป็นมเหสีขึ้นมาแทน แต่ถูกค้านอย่างหนักจากเหล่าขุนนางและสมเด็จพระพันปีหลวงอินซู 

**ตามประวัติศาสตร์กล่าวว่า พระเจ้าซองจงนั้นทรงชอบพอกับสนมโซฮวามาตั้งแต่อยู่นอกวัง แต่ที่ต้องทรงอภิเษกกับมเหสีคยองเฮนั้น เป็นเหตุผลทางการเมืองจากพระมารดา (คือพระพันปีหลวงอินซู) ที่ต้องการรักษาฐานอำนาจของสกุลฮัน อีกทั้งสนมโซฮวาเป็นคนเถรตรง ไม่ยอมคนง่ายๆ จึงไม่เป็นที่ชอบพระทัยกับพระพันปีหลวงอินซูเท่าใดนัก**


สมเด็จพระราชินีโซฮวา
(นำแสดงโดย คูเฮซอน)


สุดท้ายแล้วคนที่มีส่วนช่วยผลักดันให้สนมโซฮวาสู่ตำแหน่งมเหสีคือ สมเด็จพระอัยยิกาจองฮี โดยทรงให้เหตุผลประกอบว่า เป็นความตั้งใตของพระเจ้าซองจงและสนมโซฮวาก็มีโอรสให้พระเจ้าซองจงได้เชยชมเป็นคนแรก ฉะนั้น นางจึงเหมาะกับตำแหน่งนี้อย่างไม่ต้องสงสัย

ดังนั้นสนมโซฮวาจึงถูกแต่งตั้งเป็นสมเด็จพระราชินีโซฮวา

**แต่ถ้ามองอีกมุมคือ สมเด็จพระอัยยิกาจองฮีนั้นเป็นคนสกุลยุน ซึ่งสนมโซฮวาก็มาจากสกุลยุนเหมือนกัน เหมือนจะเป็นการคานอำนาจระหว่างสกุลยุนและสกุลฮัน**

ถึงแม้โซฮวาจะถูกแต่งตั้งเป็นมเหสีไปแล้ว แต่ความบาดหมางระหว่างพระนางกับสมเด็จพระพันปีหลวงอินซูก็ยังไม่ได้หายไป

**เชื่อกันว่าสมเด็จพระพันปีหลวงอินซูกับพระเจ้าซองจง เป็นแม่ลูกที่ไม่ค่อยมีความรักระหว่างกันอย่างที่ควรเป็น ความเข้มงวดและการแทรกแซงราชกิจทุกเรื่องจากพระมารดา ทำให้พระเจ้าซองจงรู้สึกเกรงกลัวและไม่อยากที่จะสนทนากับพระมารดาเท่าไรนัก อีกทั้งยุนโซฮวานั้นมีอายุมากกว่าพระเจ้าซองจงเกือบ 10 ปี จึงเป็นเสมือนพี่เลี้ยงที่คอยปรับทุกข์ให้กับพระองค์อยู่เสมอ นั่นยิ่งทำให้ความรักระหว่างแม่ลูกของพระเจ้าซองจงกับสมเด็จพระพันปีหลวงอินซูยิ่งเหินห่างออกไป เป็นธรรมดาที่พระพันปีอินซูจะไม่ชอบมเหสีโซฮวาผู้เป็นลูกสะใภ้**


ความบาดหมางระหว่างแม่สามีกับลูกสะใภ้ นับวันยิ่งจะเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดรอยร้าวระหว่างมเหสีโซฮวากับพระพันปีอินซูก็กว้างเกินกว่าจะประสานติดได้

จากความไม่ลงรอยตรงนี้ ใครจะไปรู้ว่าจะนำจุดจบมาสู่มเหสีโซฮวา เรื่องราวถึงจุดแตกหักเมื่อเกิดอุบัติเหตุ มเหสีโซฮวาข่วนพระพักตร์พระเจ้าซองจงจนเป็นแผล เมื่อความทราบถึงพระพันปีอินซู คงไม่ต้องบอกว่าทรงกริ้วมากขนาดไหน อีกทั้งก่อนหน้านี้ มีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้นภายในวัง เช่น สนมแท้งลูก การทำคุนไสยใส่คนในวัง พระพันปีอินซูพร้อมที่จะเชื่อว่าเป็นฝีมือของมเหสีโซฮวาอยู่แต่แรกแล้ว

ฉะนั้น.. เมื่อเกิดกรณีขึ้นกับพระเจ้าซองจง พระนางจึงยื่นคำขาดให้พระเจ้าซองจง สั่งปลดมเหสีโซฮวาออกจากตำแหน่ง พระเจ้าซองจงผู้ซึ่งเกรงกลัวพระมารดาอยู่แล้ว จะทรงคัดค้านอะไรได้อีก




มเหสีโซฮวาถูกปลดจากตำแหน่งเป็นสามัญชนหลังจากอยู่ในตำแหน่งมเหสีมาถึง 5 ปี

เรื่องราวดูเหมือนจะจบลงเพียงแค่นี้.. พระนางควรจะได้ใช้ชีวิตนอกวังอย่างสงบ ไม่ต้องมีใครมาคอยใส่ร้ายหรือจ้องจะเล่นงานพระนางอีก

แต่แล้วในอีก 2 ปีต่อมา ก็มีราชโองการจากพระเจ้าซองจง (ซึ่งแน่นอนว่าถูกบังคับจากสมเด็จพระพันปีหลวงอินซู) ให้สั่งประหารอดีตมเหสีโซฮวา

 **ตามพงศาวดารฉบับชิลชก บอกว่า พระนางพยายามจะสาปแช่งทุกคน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทำให้พระนางต้องออกจากตำแหน่งมเหสี พระพันปีหลวงอินซูทราบเข้า จึงเห็นว่าหากนางอยู่ต่อไปรังแต่จะนำความวิบัติมาสู่ราชสำนัก จึงสั่งพระเจ้าซองจงให้ประหารนางเสีย..**





สำหรับพระเจ้าซองจงแล้ว ไม่ต้องถามว่าทรงเสียพระทัยมากขนาดไหน แต่ในเมื่อเป็นรับสั่งของพระมารดาอีกทั้งต้องทรงทำหน้าที่ในฐานะพระราชาของประเทศนี้.. จึงทรงต้องสั่งประหารมเหสีโซฮวา พร้อมกับทรงออกกฏหมาย ห้ามใครพูดถึงเรื่องของมเหสีโซฮวานี้ต่อไปเป็นเวลา 100 ปี

**คาดว่าทรงต้องการไม่ให้องค์ชายยอนซันได้ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับพระมารดาของตนเอง อันจะสร้างความสะเทือนใจให้แก่องค์ชายยอนซัน**




อีกคนหนึ่งที่เสียพระทัยมากคือ สมเด็จพระอัยยิกาจองฮี หลังจากการประหารอดีตมเหสียุนโซฮวาไม่กี่เดือน ก็ทรงประชวรอย่างหนักและสวรรคตในเวลาต่อมา นักประวัติศาสตร์หลายคนคาดว่า พระนางคงสะเทือนใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดกับหลานสะใภ้ ประกอบกับพระชนมายุมากแล้ว ทำให้พระวรกายไม่ค่อยแข็งแรงนัก..
(มเหสีโซฮวาถูกประหารในปี ค.ศ. 1502 สมเด็จพระอัยยิกาจองฮีสวรรคตในปี ค.ศ. 1503)


หลังจากมเหสีโซฮวาถูกประหารไปแล้ว.. เกิดอะไรขึ้นกับองค์ชายยอนซัน ?


ถามว่าทรงรู้เรื่องพระมารดาไหม ?
คำตอบคือ >> รู้ในเวลาต่อมาไม่นานนัก เพียงแต่ทรงทราบแค่ว่าพระมารดาได้สิ้นพระชนม์ไปแล้วเท่านั้น แต่ไม่ได้ทรงทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงในการสิ้นพระชนม์ของพระมารดา

ดังนั้น.. พระเจ้าซองจงและสมเด็จพระพันปีหลวงอินซู จึงคิดว่า ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไรถ้าแต่งตั้งองค์ชายยอนซันเป็นรัชทายาท หากทุกคนปกปิดเรื่องของมเหสีโซฮวาไว้ อีกทั้งยังมีกฏที่พระเจ้าซองจงทรงออกมาว่า ห้ามใครพูดเรื่องมเหสีโซฮวาเป็นเวลา 100 ปี

**ถึงแม้สมเด็จพระพันปีหลวงอินซูจะทรงเกลียดมเหสีโซฮวามาก แต่กับองค์ชายยอนซันแล้วทรงรักมากเพราะเป็นหลานชายคนแรกและทรงคาดหวังกับหลานชายคนนี้มากว่าจะเป็นพระราชาที่ดีในอนาคตได้อย่างแน่นอน**


แล้วตำแหน่งมเหสีที่ว่างลงนั้น ใครมาแทน.. ?

คำตอบคือ สนมซุกยอน จากสกุลยุน 1 ในสนมเอกทั้ง 4 ของพระเจ้าซองจงนั่นเอง


 สมเด็จพระราชินีชางมยอน
(นำแสดงโดย ลีจิน)

หลังจากการปลดมเหสีโซฮวาไม่นาน สมเด็จพระพันปีหลวงอินซูได้แต่งตั้งมเหสีองค์ใหม่ทันที โดยเลือกสนมเอกซุกยอน เนื่องจาก บุคลิกและการวางตัวที่นอบน้อมและเคารพต่อผู้อาวุโสและคนที่อยู่สูงกว่า แม้แต่กับมเหสีโซฮวาเอง สนมซุกยอนก็ยังรักและให้ความเคารพกับพระนาง ซึ่งมเหสีโซฮวาก็ไว้ใจในตัวสนมซุกยอนมากกว่าสนมคนอื่นๆ

ดังนั้น สนมซุกยอน จึงได้รับการแต่งตั้งเป็นมเหสีองค์ที่ 3 ของพระเจ้าซองจง พระนามว่า สมเด็จพระราชินีชางมยอน

และนอกจากนี้สมเด็จพระราชินีชางมยอนยังทรงรับองค์ชายยอนซันเป็นโอรสบุญธรรม ทำให้ฐานะรัชทายาทขององค์ชายยิ่งมั่นคงมากขึ้นไปอีก




พระเจ้าซองจงเสด็จสวรรคตในปี ค.ศ. 1494 องค์รัชทายาทยอนซันเสด็จขึ้นครองราชย์ต่อจากพระบิดาเป็นพระเจ้ายอนซัน กษัตริย์ลำดับที่ 10 ของราชวงศ์โชซอน


พระเจ้ายอนซัน
(จากเรื่องคิมชูซอน)


เมื่อพระเจ้ายอนซันครองราชย์แล้ว สมเด็จพระพันปีหลวงอินซูได้รับการแต่งตั้งเป็นสมเด็จพระอัยยิกาเจ้าอินซู และสมเด็จพระราชินีชางมยอน ได้รับการแต่งตั้งเป็น สมเด็จพระพันปีหลวงจาซุน


สมเด็จพระอัยยิกาเจ้าอินซู
(จากเรื่องคิมชูซอน)

สมเด็จพระพันปีหลวงจาซุน
(จากเรื่องคิมชูซอน)

เหตุการ์ณตอนต้นรัชกาลของพระเจ้ายอนซัน เกิดเหตุการณ์แรกคือ การฆ่าล้างหมู่นักปราญ์ปีมูโอ (ปี ค.ศ. 1498)

สมัยพระเจ้ายอนซันนั้นมีขั้วอำนาจขุนนางใหม่ขึ้นมาคือ ขุนนางกลุ่มซาริม ซึ่งเป็นปรปักษ์กับขุนนางดั้งเดิมที่รับใช้ราชสำนักมาแต่สมัยพระเจ้าซองจง

เรื่องเริ่มขึ้นเมื่อขุนนางกลุ่มซาริมคนหนึ่งชื่อ คิมอิลซุน ได้อ้างอิงบทความจากคิมจงจิผู้เป็นอาจารย์ของตน ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการยึดอำนาจของพระเจ้าเซโจจากองค์ชายโนซานว่าเป็นการไม่ชอบธรรม นำมาเขียนในบันทึกประวัติศาสตร์ของราชวงศ์

เมื่อเรื่องนี้ทราบถึงพระเจ้ายอนซัน ก็ทรงพิโรธมากที่คิมอิลซุนกล่าวหาพระเจ้าเซโจผู้เป็นพระปัยกา (ปู่ทวด) ถึงขั้นทรงเอาบันทึกราชวงศ์มาอ่านดูว่าคิมอิลซุนนั้นเขียนอะไรลงไปบ้าง ซึ่งตามกฏของราชสำนัก พระราชาไม่มีสิทธิอ่านบันทึกของราชวงศ์ อันเป็นหลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์

เมื่อเรื่องเกิดขึ้นดังนี้ ขุนนางกลุ่มดั้งเดิม จึงทูลยุยงให้พระเจ้ายอนซันลงโทษขุนนางกลุ่มซาริม โดยให้เหตุผลว่า การกล่าวหาของคิมอิลซุนนั้น ส่อถึงว่า พระเจ้าเซโจไม่มีความชอบธรรมในการครองราชย์

สิ่งที่เกิดตามมาคือ ขุนนางกลุ่มซาริมทุกคนถูกประหารชีวิต อย่างดีสุดก็คือเนรเทศออกจากเมืองหลวง แม้แต่คนที่ตายไปแล้วอย่าง คิมจงจิก อาจารย์ของ คิมอิลซุน ยังถูกขุดศพขึ้นมาทำลายอีกด้วย


หลังจากนั้นต่อมาอีก 6 ปี ก็เกิดเหตุการณ์ที่สองขึ้นคือ การฆ่าล้างหมู่นักปราญ์ปีคัปจา (ปี ค.ศ. 1504)

หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "การล้างแค้นให้กับมเหสีโซฮวา ผู้เป็นพระมารดาของพระเจ้ายอนซัน"





จากที่กล่าวมาแล้วว่า หลังการสำเร็จโทษอดีตมเหสีโซฮวา พระเจ้าซองจงได้ออกกฏหมายห้ามใครพูดเรื่องนี้ต่อไปเป็นเวลา 100 ปี


แต่สุดท้าย.. ก็มีขุนนางปากบอน ทูลเรื่องนี้ออกมาให้พระเจ้ายอนซันรับรู้ คือ ลิมซาฮง และ ชินซูกึน

ซึ่งนำความหายนะครั้งใหญ่มาสู่ราชวงศ์โชซอน..

เมื่อทรงทราบเรื่องพระมารดา พระเจ้ายอนซันจึงรับสั่งให้ทุกคนที่มีส่วนร่วมในการให้ร้ายพระมารดาจนทำให้นางถูกปลดและประหารชีวิต ไม่ว่าคนๆ นั้นจะมีเอี่ยวมากหรือน้อยก็ตาม ต้องถูกจับมาประหารชีวิตทั้งหมด

คนกลุ่มแรกที่ถูกจัดการคือกลุ่มขุนนาง โดยเฉพาะขุนนางอาวุโสหรือขุนนางผู้ใหญ่ที่เป็นขุนนางเก่าของพระเจ้าซองจง ต่างถูกจับตัวมาประหารชีวิตทั้งหมด และแน่นอน.. ถ้าใครที่เสียชีวิตไปแล้ว จะถูกขุดศพขึ้นมาเพื่อทำลายทิ้ง


(จากเรื่องคิมชูซอน)


นับแต่นั้นมาราชสำนักก็เข้าสู่กลียุค ใครก็ตามที่ขัดพระทัยขององค์ชายยอนซัยแม้เพียงน้อยนิดล้วนถูกประหารชีวิต องค์ชายยอนซันทรงเลิกสนพระทัยกิจการบ้านเมืองและประพฤติตนแหลวแหลกใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ทรงให้นางโลมหรือคีแซงเข้ามาอยู่ในพระราชวังเพื่อหลับนอน

แน่นอนว่าสมเด็จพระอัยยิกาอินซูในฐานะผู้อาวุโสสูงสุด เริ่มรับไม่ได้กับพฤติกรรมของหลานชายคนนี้เข้าทุกวัน ทรงออกหน้าตักเตือนพระเจ้ายอนซันอยู่หลายครั้ง แต่ก็ดูเหมือนยิ่งราดน้ำมันเข้ากองไฟ ยิ่งทรงออกหน้าพูดกับพระเจ้ายอนซันมากเท่าไร ดูเหมือนจะทำให้พระเจ้ายอนซันยิ่งโหมไฟแค้นในใจที่มีต่อเหตุการณ์ของพระมารดามากขึ้นเท่านั้น

เมื่อการกวาดล้างขุนนางที่มีส่วนให้ร้ายมเหสีโซฮวาผ่านไปแล้ว พระเจ้ายอนซันจึงมีรับสั่งว่าจะคืนยศพระมเหสีให้กับพระมารดา แน่นอนว่าถูกคัดค้านอย่างหนักจากสมเด็จพระอัยยิกาอินซู 

นั่นทำให้เกิดเหตุการณ์ฆ่าล้างหมู่อีกครั้งหนึ่งในปีเดียวกัน..

เมื่อพระเจ้ายอนซันทรงทราบว่า คนของฝ่ายใน ทั้งซังกุง นางใน รวมไปถึงสนมเอกของพระเจ้าซองจงผู้เป็นพระบิดา ต่างก็มีส่วนในการให้ร้ายพระมารดาของตนเช่นกัน

และทรงหมายรวมไปถึง.. สมเด็จพระอัยยิกาเจ้าอินซู ผู้เป็นเสด็จย่าแท้ๆ ของพระองค์


(จากเรื่อง ราชินีอินซู)


บรรดานางในและซังกุงที่ถูกนำมาสำเร็จโทษนั้น.. ส่วนใหญ่แล้วเป็นแต่ซังกุงอาวุโส ทั้งปลดเกษียณแล้ว หรือ เป็นซังกุงคนสนิทของสมเด็จพระอัยยิกาอินซูและสมเด็จพระพันปีหลวงจาซุน

แน่นอนว่า สมเด็จพระอัยยิกาเจ้าอินซู ทรงขัดขวางพระเจ้ายอนซันถึงที่สุด ในการจับซังกุงคนสนิทของพระนางไปสำเร็จโทษ เรื่องราวจบลงที่พระเจ้ายอนซันทำร้ายร่างกายสมเด็จพระอัยยิกาเจ้าอินซู ผู้เป็นเสด็จย่าของตนเอง จนพระองค์ตรอมพระทัยจนล้มป่วยในที่สุด


เมื่อสำเร็จโทษบรรดาซังกุงแล้ว คนต่อไปที่ตามมาคือ สนมเอกของพระเจ้าซองจงทั้งสอง คือ สนมออมควีอิน สนมชองควิอิน


สนมชองควีอินถูกสำเร็จโทษ
(จากเรื่องคิมชูซอน)


ไม่ปรากฏหลักฐานว่าพระเจ้ายอนซันสำเร็จโทษสนมทั้งสองอย่างไร แต่นอกจากสนมเอกมทั้งสองจะถูกสำเร็จโทษแล้ว องค์ชายอันยางและองค์ชายพงอัน โอรสซึ่งเกิดจากพระเจ้าซองจงกับสนมชองควิอิน ยังถูกสำเร็จโทษตามพระมารดาไปด้วย




สนมออมควีอินถูกสำเร็จโทษ
(จากเรื่องคิมชูซอน)



**สนมสองคนนี้ ไม่เป็นที่โปรดปรานของมเหสีโซฮวา อีกทั้งยังเคยมีเรื่องพิพาทกันอยู่บ่อยๆ ครั้ง โดยเฉพาะสนมชองควิอิน ที่เคยแท้งลูกในช่วงที่มเหสีโซฮวาอยู่ในตำแหน่ง นางปักใจเชื่อว่าสาเหตุที่นางแท้งลูกนั้นเป็นฝีมือของมเหสีโซฮวา**


(จากเรื่อง ราชินีอินซู)


สำหรับสมเด็จพระอัยยิกาเจ้าอินซู ตามบันทึกประวัติศาสตร์กล่าวว่า พระเจ้ายอนซันทรงสั่งประหารในเวลาต่อมา โดยการตัดแขน-ขาสมเด็จพระอัยยิกาเจ้าอินซู ผู้เป็นเสด็จย่าแท้ๆ ของพระองค์เอง -- (จากเหตุการณ์นี้ทำให้นักประวัติศาสตร์ยุคหลังไม่ยอมรับพระเจ้ายอนซันในฐานะพระราชา)


**ในซีรีส์เกาหลีหลายๆ เรื่อง พยายามเสนอมุมมองที่ต่างออกไปว่า พระเจ้ายอนซันอาจไม่ได้สั่งประหารสมเด็จพระอัยยิกาเจ้าอินซู หากแต่เกิดการกระทบกระทั่งกันอย่างรุนแรงระหว่างสมเด็จพระอัยยิกาเจ้าอินซูและพระเจ้ายอนซัน ทำให้สมเด็จพระอัยยิกาเจ้าอินซูทรงตรอมพระทัยอย่างมากและสิ้นพระชนม์ในเวลาต่อมา**


จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสมเด็จพระอัยยิกาเจ้าอินซู ทำให้เกิดความหวาดกลัวไปทั่วราชสำนัก ไม่ว่าข้าราชบริพารคนใดก็ไม่กล้าทูลเตือนพระเจ้ายอนซันอีกต่อไป เพราะต่างกลัวโดนโทษประหารกันทั้งสิ้น จึงเป็นช่องทางให้ขุนนางหลายๆ คนอาศัยช่วงนี้ ในการสร้างฐานอำนาจให้กับตนเอง


ถามว่าเหตุการณ์นี้จบลงอย่างไร..



มีขุนนางกลุ่มหนึ่งซึ่งเห็นแล้วว่า หากเป็นเช่นนี้ต่อไป บ้านเมืองจะถึงคราวหายนะอย่างแท้จริงแน่นอน จึงได้รวมกลุ่มกันเพื่อที่จะโค่นล้มพระเจ้ายอนซัน เรียกเหตุการณ์นี้ว่า รัฐประหารพระเจ้ายอนซัน

แกนนำหลักมี 3 คนคือ ปาร์ควอนจง, ซองฮีอัน และ ยูชูซอง

กลุ่มรัฐประหาร เล็งเห็นว่า คนที่เหมาะจะเป็นพระราชาองค์ต่อไปคือ องค์ชายจินซอง


องค์ชายจินซอง หรือ พระเจ้าจุงจง กษัตริย์ลำดับที่ 11 แห่งโชซอน
(จากเรื่องคิมชูซอน)


องค์ชายจินซองเป็นโอรสของพระเจ้าซองจงซึ่งเกิดกับสมเด็จพระราชินีชางมยอน (คือสมเด็จพระพันปีจาซุนในปัจจุบัน) มีศักดิ์เป็นพระอนุชาต่างมารดาของพระเจ้ายอนซัน

ฉะนั้นคณะรัฐประหารจึงก่อการขึ้นในปี ค.ศ. 1506 โดยบุกเข้าพระราชวังคยองบกในตอนกลางดึก สังหารขุนนางและลิ่วล้อที่คอยยุยงพระเจ้ายอนซันจนหมดสิ้น ก่อนที่จะคุมตัวพระเจ้ายอนซันไว้ภายในตำหนักใหญ่ และนำตราหยกส่วนพระองค์ของพระราชา ไปเข้าเฝ้าสมเด็จพระพันปีหลวงจาซุนพร้อมกัน


(จากเรื่องคิมชูซอน)


แน่นอนว่าสมเด็จพระพันปีหลวงจาซุนรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แม้ทรงรู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่คณะรัญประหารทำไป ก็เพื่อเห็นแก่บ้านเมืองที่กำลังวิกฤติอยู่ในตอนนี้ แต่พระเจ้ายอนซันก็เป็นโอรสบุญธรรมของพระนาง แต่เมื่อคณะรัฐประหารรายงานสถานการณ์ว่าตอนนี้พวกเขาคุมวังหลวงไว้ได้ทั้งหมดแล้ว เสมือนเป็นการบีบให้สมเด็จพระพันปีหลวงจาซุนต้องทำตาม พระนางจึงไม่มีทางเลือก..


(จากเรื่องคิมชูซอน)


พระเจ้ายอนซันถูกปลดและลดฐานะให้เป็นเพียงองค์ชายยอนซัน พร้อมกันนั้นแม้แต่มเหสีของพระเจ้ายอนซัน สมเด็จพระราชินีมุนซอง ให้ลดฐานะเป็นเพียงองค์หญิงมุนซอง และองค์รัชทายาท ก็ให้ถูกปลดด้วย และเนรเทศทั้งหมดไปยังเกาะคังฮวา

องค์ชายยอนซันใช้ชีวิตอยู่ที่เกาะคังฮวาไม่นานก็สิ้นพระชนม์ในปีเดียวกัน ทรงไม่ได้รับพระนามกษัตริย์เขียนไว้ที่ป้ายสุสาน และ ทรงเป็นที่จดจำในฐานะกษัตริย์ที่อื้อฉาวที่สุดของราชวงศ์โชซอน




เขียน 2 วัน กว่าจะจบ -0-

ถามว่ามันส์ไหม ตอบได้เลยว่ามันส์สุดๆ 555+


คราวหน้าว่าจะเขียนเรื่องสนมฮีบินล่ะ (ใจจริงอยากเขียนเรื่องราชินีเมียงซองก่อนนะ 55+)



วันจันทร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2556

ซีรีส์เกาหลีแนวพีเรียต


เชื่อว่าใครหลายๆ คน คงจะชอบดูซีรีส์เกาหลีกัน ก็มีหลายแนวด้วยกันนะครับ สำหรับบ้านเรา ซีรีส์เกาหลีเป็นสิ่งแปลกใหม่เอามากๆ ในตอนแรกที่เข้ามาในเมืองไทย

หลายคนเบื่อกับละครไทย ที่ออกแนวชิงรักหักสวาท ตัวร้ายแต่งหน้าจัด นางเอกโง่ พระเอกโง่สุด สุดท้ายตัวร้ายไม่ตายก็เสียสติ และพระเอกกับนางเอกก็ happy ending ด้วยกัน

ซีรีส์เกาหลีจะฉีกแนวออกไปอีกแบบนึง ถ้ามันรันทด ก็จะรันทดเสียจนแบบเราดูแล้วยังคิดเลยว่า "ชีวิตมึงทำไมเศร้าได้ขนาดนั้น.." (แล้วน้ำตาก็ไหลออกมา T__T) แนวๆนี้ที่ผมจำได้ดีคือ เรื่อง รักนี้ชั่วนิรันตร์ (autumn in my heart) เป็นซีรีส์เกาหลีเรื่องแรกๆ ที่เข้ามาในบ้านเรา ฉายทางช่อง itv แม่ผมดูแล้วร้องไห้ตามทุกตอน พร้อมๆกับป้าผมเช่นกัน - -'' [แต่ผมไม่ร้องนะครับ คือ เป็นคนบ่อน้ำตาลึก]





นั่นเป็นซีรีส์เกาหลีเรื่องแรกที่ผมดู


เรื่องที่สอง ห่างจากเรื่องแรกนานพอสมควร (ประมาณ 3-4 ปีได้มั้ง) คือเรื่อง แดจังกึม จอมนางแห่งวังหลวง เชื่อว่าหลายๆ คนรู้จักเรื่องนี้อย่างแน่นอน เพราะช่วงนั้นเป็นกระแสที่ดังไปทั่วประเทศ เป็นการปลุกกระแสซีรีส์เกาหลีให้เป็นที่รู้จักของคนในประเทศไทยเรา

ผมเองก็ได้ดูเรื่องนี้เหมือนกันครับ แต่ว่าไม่ได้ดูรอบแรกนะครับ (เรื่องแดจังกึม มาฉายครั้งแรกประมาณปี 2005-2006 ทางช่อง 3 เวลา 18.00-20.00) ผมมาดูรอบรีรัน (ฉายซ้ำ ฉายปี 2007 ช่อง 3 เหมือนกัน เวลา 15.00-16.00) นั่นล่ะทำให้ติดแบบจังๆ เลย





แดจังกึม เป็นซีรีส์เกาหลีแนวพีเรียต หรือ แนวย้อนยุค เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในราชสำนักเกาหลีเมื่อประมาณ 400 ปีที่แล้ว ซีรีส์เรื่องนี้ เมื่อลองไปตามข้อมูลดู พบว่า โด่งดังทั่วเอเชียและข้ามฟากไปยังอเมริกาอีกด้วย เป็นซีรีส์เรื่องแรกที่ทำให้ชาวโลกได้รู้จักกับประเทศเกาหลี

สำหรับผม ผมติดใจไม่ใช่แค่ตัวของจังกึม แต่มันกระตุ้นให้ผมอยากศึกษาและอยากรู้ความเป็นมาของประวัติศาสตร์ราชวงศ์เกาหลีขึ้นมาในทันทีเลยก็ว่าได้ครับ

หลังจากนั้นก็มีซีรีส์เกาหลีแนวพีเรียตเข้ามาในบ้านเราอีกหลายๆ เรื่อง แต่เรื่องที่ดังๆ และทำให้ผมประทับใจจริงๆ มีอยู่ 6 เรื่องด้วยกันคือ

1. ลีซาน จอมบัลลังก์พลิกแผ่นดิน (Yi San)



2. บันทึกรักคิมชูซอน สุภาพบุรุษมหาขันที (The King and I)




3. ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน (The Great Queen Seon Deok)




4. ศึกชิงบัลลังก์จอมนาง (Women's World in the Palace)




5. เมียงซอง จักรพรรดินีที่โลกลืม (The Last Empress)




6. ทงอี จอมนางคู่บัลลังก์ (Dong Yi)




ไม่ขอสปอยล์เนื้อเรื่องละกัน 555+ เดี๋ยวจะโดนหาว่าละเมิดลิขสิทธิ์อีก ในแต่ละเรื่องเป็นการหยิบยกประวัติศาสตร์ของราชวงศ์โชซอนมาทำเป็นละครซีรีส์ (ยกเว้น ซอนต๊อก เป็นเรื่องสมัยราชอาณาจักรชิลลา ก่อนโชซอนประมาน 200 ปี)  โดยอาศัยจากบันทึกประวัติศาสตร์ราชวงศ์ แต่ก็มีอยู่หลายเรื่องเหมือนกันที่บันทึกในหน้าประวัติศาสตร์มีเพียงนิดเดียว แต่คนเขียนบทก็ร่ายยาวและเติมแต่งจินตนาการจนกลายเป็นละครที่สนุกสนาน

ฉะนั้นถ้าอยากศึกษาประวัติศาสตร์เกาหลีจริงๆ อย่าเชื่อตามซีรีส์ให้มากครับ ในซีรีส์เกาหลีแนวพีเรียตจะมีเรื่องจริงผสมกับเรื่องที่คนเขียนบทเพิ่มเติมเข้าไป ฉะนั้น เราต้องมาแยกให้ออกว่าเหตุการณ์ใดบ้างที่เกิดขึ้นจริง

และในบางครั้ง ตัวละครเดินเรื่องกับช่วงเวลาที่ปรากฏในแต่เรื่อง แท้จริงแล้วกลับพบว่ามีชื่ออยู่จริงแต่อยู่กันคนละช่วงเวลาเลยก็มี เช่น

ในเรื่อง บันทึกรักคิมชูซอน


ตามประวัติศาสตร์

-พระมเหสีโซวาแก่กว่าพระราชา 8-10 ปีโดยประมาณ

- คิมชูซอนเกิดสมัยพระเจ้าเซจง(ร.4) เข้ามาเป็นขันทีในวังสมัยพระเจ้ามุนจง(ร.5) แล้วก็อยู่ไปเรื่อยจนถึงสมัยพระเจ้ายอนซัน(ร.10) เขารับใช้พระราชาถึง 7 พระองค์ จึงไม่น่าเสียชีวิตสมัยพระเจ้ายอนซัน แต่น่าจะเสียชีวิตสมัยพระเจ้าจุนจง และที่สำคัญไม่เคยเป็น เจ้ากรมขันที แต่ก็อาจจะอยู่ในฐานะขันทีอวุโสที่ไม่ได้รับความเดือดร้อนจากการเมืองมากนัก เพราะวางตัวเหมาะสม

-ออลูตงอาจจะมีจริง แต่น่าจะอยู่ในสมัยพระเจ้าเซจง(ร.4)มากกว่าซองจง(ร.9)

-การสิ้นพระชนม์ของพระอัยยิกาหลวงยินซูความจริงคือพระเจ้ายอนซันสั่งประหารชีวิตด้วยการตัดขาและควักหัวใจ ซึ่งนับเป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุดที่หลานสั่งประหารเสด็จย่าแท้ๆของตนเอง



และเมื่อได้ลองไปค้นดูซีรีส์เก่าๆ ที่เกาหลีเคยสร้างไว้เมื่อหลายปีก่อน (บางครั้งช่อง 3 ก็ซื้อลิขสิทธิ๋มาและมาฉายในช่วงดึก ประมาน ตี2-ตี4) พบว่า ช่วงเวลาในราชวงศ์โชซอนที่มีการหยิบยกมาสร้างบ่อยๆ มักจะมีอยู่ 3 ช่วงด้วยกันคือ


1. ช่วงสมัยพระเจ้าซองจง-สมัยพระเจ้ายอนซัน



เหตุการณ์เริ่มในสมัยพระเจ้าซองจง เมื่อพระมเหสียุนโซฮวา ถูกสั่งปลดโดยคำสั่งของสมเด็จพระพันปีหลวงอินซู ก่อนจะถูกโทษประหารชีวิตในอีก 2 ปีต่อมา นำมาซึ่งโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ของราชวงศ์โชซอนในสมัยพระเจ้ายอนซันผู้เป็นพระโอรสองค์เดียวของพระเจ้าซองจงกับมเหสีโซฮวา

ตลอดรัชสมัยพระเจ้ายอนซัน เกิดการกวาดล้างกลุ่มขุนนาง มหาดเล็ก นางใน ไม่เว้นแต่เชื้อพระวงศ์ ที่มีส่วนรู้เห็นในการประหารมเหสีโซฮวา เรียกได้ว่าเป็นการล้างแค้นให้กับพระมารดา เหตุการณ์เลวร้ายจนถึงขั้นทรงสั่งประหารสมเด็จพระอัยยิกาเจ้าอินซู ผู้เป็นเสด็จย่าของพระเจ้ายอนซันเอง

เรื่องราวจบลงโดยพระเจ้ายอนซันถูกโค่นอำนาจลง และถูกปลดเป็นสามัญชน เนรเทศไปยังเกาะเชจู และสิ้นพระชนม์ที่เกาะนั้น


2. ช่วงสมัยพระเจ้าซุกจง


เป็นช่วงที่หยิบยกมาพูดถึงบ่อยที่สุดและมีการทำเป็นละครบ่อยที่สุดในประเทศเกาหลี (อารมณ์เหมือนคู่กรรมบ้านเรานี่ล่ะ) นั่นก็คือ เรื่องราวของสนมจางฮีบิน

เรื่องตามประวัติศาสตร์คือ มเหสีอินฮอนในพระเจ้าซุกจง สวรรคตกระทันหันโดยไม่ทราบสาเหตุ นำความเสียพระทัยอย่างยิ่งมาสู่พระเจ้าซุกจง จนกระทั่งวันหนึ่ง พระเจ้าซุกจงเสด็จไปยังตำหนักของสนมฮีบิน พบว่าพระนางกำลังทำพิธีสาปแช่งมเหสีอินฮอน โดยการใช้ธนูยิงปักไปยังตุ๊กตาสาปแช่งซึ่งมีชื่อของมเหสีอินฮอนติดอยู่ พระเจ้าซุกจงทรงพิโรธมาก จึงสั่งประหารสนมจางฮีบินในทันที

หลายเรื่องที่สร้างเป็นละคร ได้สะท้อนมุมมองของสนมฮีบิน ที่อยากได้ความรักจากพระราชาบ้าง ฉะนั้นนางจึงต้องทำทุกทาง เพื่อที่จะพิชิตใจของพระเจ้าซุกจง


3. ช่วงสมัยพระเจ้าโกจง


เป็นเหตุการณ์ที่ชาวเกาหลีสะเทือนใจและทำให้เป็นปัญหาในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลี-ญี่ปุ่น มาจนปัจจุบันนี้ นั่นก็คือ "การลอบสังหารพระมเหสีเมียงซอง"

เหตุการณ์นี้ถูกนำไปสร้างเป็นซีรีส์และละครเวทีในเกาหลีหลายต่อหลายครั้ง เหตุการณ์คือ มเหสีเมียงซองเป็นกุนซือสำคัญในการต่อต้านการรุกรานจากญี่ปุ่นในช่วงเวลานั้น ทรงดำเนินทุกวิถีทาง ทั้งการทูต การทหาร จักรวรรดิญี่ปุ่นจึงเห็นพระนางเป็นเสี้ยนหนามสำคัญ ที่ต้องกำจัดทิ้งโดยด่วย

การลอบสังหารเกิดขึ้นในเช้าวันที่ 8 ตุลาคม ค.ศ. 1895 โดยกลุ่มซามูไรและทหารญี่ปุ่น บุกเข้าไปในพระราชวังคยองบกและตรงไปยังตำหนักที่ประทับของพระมเหสี ก่อนจะลงมือสังหารพระนางพร้อมกับซังกุงคนสนิท แล้วจึงลากพระศพออกมาไปยังท้ายวัง และจุดไฟเผาพระศพเพื่อทำลายหลักฐานทิ้ง



จะเห็นได้ว่าทั้ง 3 ช่วง มีเหตุการณ์ที่เป็นจุดสนใจและก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ตามมาในรุ่นหลังๆ แต่สำหรับผมแล้ว เหตุการณ์ช่วงที่ 3 เป็นเหตุการณ์ที่น่าหดหู่ ดูแล้วน่าสงสารที่สุดล่ะ T_T

ในช่วงหลังๆ นี้ก็มีซีรีส์เกาหลีพีเรียต ที่ยกเหตุการณ์ในช่วงเวลาของราชวงศ์โชซอนในช่วงอื่นๆ ออกมาทำเป็นละครแล้วเช่นกัน เช่น

1. อักษรแห่งองค์ราชันย์ (Tree with deep root)


ยกเหตุการ์ณสมัยพระเจ้าเซจงมหาราช ในช่วงที่ทรงประกาศใช้อักษรฮันกึล อันเป็นการวางรากฐานที่สำคัญยิ่งให้กับประเทศเกาหลี

2. The moon that embrace the sun


เหตุการณ์ในช่วงสมัยพระเจ้าเซโจ-สมัยพระเจ้าเยจง เรื่องราวเป็นยังไงไปหาดูกันนะครับ (ไม่อยากสปอยล์ เด๋วโดนฟ้อง 555++)


คงพอหอมปากหอมคอกันสักนิดแล้วล่ะผมว่านะ คิคิ

ตอนนี้มีมาแนะนำอีก 2 เรื่องครับ กำลังไล่ดูอยู่ตอนนี้เลย ^o^


1. ราชินีอินซู (Queen Insoo)


เรื่องนี้เหตุการณ์จะอยู่ในช่วงสมัยพระเจ้าเซโจ-องค์ชายยอนซัน คล้ายๆกับเรื่องบันทึกรัก คิมชูซอน แต่เรื่องนี้ตัวเดินเรื่องจะเป็นราชินีอินซู พระราชมารดาในพระเจ้าซองจง และในตอนแรกจะเป็นสมเด็จพระพันปีหลวงจองฮี

เรื่องนี้เขียนบทให้เป็นการแย่งชิงอำนาจระหว่างแม่สามี (พระพันปีหลวงจองฮี) กับลูกสะใภ้ (ราชินีอินซู) และแน่นอน ยังมีเหตุการณ์ประหารมเหสีโซฮวาและการแก้แค้นของพระเจ้ายอนซันปรากฏอยู่ด้วย



2. จางอ๊กจอง (Jang Ok Jung)



รีรันรอบที่เท่าไรก็ไม่รู้ 55+ (เหมือนเรื่อง คู่กรรม บ้านเราเลยล่ะ) เรื่องของสนมฮีบินครับ เอามาสร้างใหม่อีกครั้งแล้ว ตอนนี้กำลัง on air ที่เกาหลีอยู่เลย ทางช่อง SBS เรื่องนี้จะมองจากมุมของสนมฮีบิน ฉะนั้นเราอาจจะเห็นสนมซุกบิน (ทงอี) เป็นตัวร้ายไปเลยในเรื่องนี้ ยังไงก็ติดตามกันดูนะครับ


ช่วงนี้ว่างจัดจริงๆ จนไม่รู้จะทำอะไร เลยคุ้ยประวัติศาสตร์เกาหลีมานั่งเขียนเล่นๆ โดยจะอิงกับซีรีส์เกาหลีแนวพีเรียตด้วย เพื่อให้เห็นภาพกันนะครับ kiki

>__< 

วันเสาร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2556

SENIOR BIO สอนน้อง

ก่อนจบครับ.. อยากฝากอะไรถึงน้องๆ ที่กำลังจะเป็นพี่ในวันข้างหน้า


ไม่ว่าน้องถูกน้องด่า น้องว่า หรือ น้องทำอะไรก็ตามที่ทำให้พี่เสียใจ.. คนเป็นพี่ไม่ว่าจะโกรธหรือเสียใจแค่ไหนก็ต้องเป็นฝ่ายเงียบและให้อภัยน้องเสมอ.. ถ้าทำไม่ได้ อย่าเรียกตัวเองว่า "พี่"


ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น.. อย่าทิ้งน้อง ให้ความช่วยเหลือน้อง คอยตักเตือนอยู่เสมอ ไม่ว่าน้องนั้นจะเป็นยังไง เพราะยังไง เขาก็เป็นน้อง


น้องจะรักและเคารพพี่หรือไม่นั้น.. 
ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับน้องฝ่ายเดียว แต่มันก็ขึ้นอยู่กับรุ่นพี่ด้วยเช่นกัน..



รุ่นที่ติดกัน พี่ต้องใช้ความอดทนและความเป็นกันเองกับน้องมากกว่ารุ่นอื่นๆ เพราะอายุพี่กับน้องจะใกล้เคียงกันมาก ฉะนั้น ความคิด นิสัย ทัศนคติและอะไรหลายๆอย่าง จะคล้ายกันมาก เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนกันก็ยังได้ 



รุ่นที่ห่างกัน (เช่น 37-39 // 38-40) ไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าพี่และน้องจะสนิทกันยาก เพราะอายุจะต่างกัน 1 ปีหรือ 2 ปี ความคิด นิสัย และทัศนคติ จะมีความแตกต่างกันเยอะกว่ารุ่นที่ติดกัน แต่พี่ปีสูงนั้นจะต้องเป็นหลักและสามารถปกป้องน้องๆ ทั้งหมดได้ 



ถึงน้องๆ  เวลาน้องทำอะไรไม่ดีกับพี่เขาไว้ ถ้าในอนาคตน้องเป็นพี่แล้ว แล้วเจอน้องทำไม่ดีใส่ จงนึกถึงว่า เมื่อก่อนเธอเคยทำกับรุ่นพี่ไว้อย่างไร สิ่งเหล่านั้นมันจะย้อนกลับมาหาตัวเธอเอง (อันนี้พิสูจน์แล้วขอยืนยันว่า จริง!)


เวลาที่พี่ๆ เขาทำงาน อย่าเอาแต่นั่งคอยจับผิดความผิดพลาดและนินทา แต่จงเรียนรู้การทำงานจากความผิดพลาดของพี่ๆ เขา เพราะ เมื่อถึงเวลาที่เธอต้องทำงาน เธอจะรู้ว่า มันไม่ง่ายอย่างที่คิด ต่อให้วางแผนมารอบคอบขนาดไหน จะต้องมีปัญหาเกิดขึ้นแน่นอน --- "ถ้าไม่มีปัญหา อย่าคิดว่านั่นเป็นงานที่ดี แต่มันไม่ใช่งานเลยต่างหาก"